
เกิดจากภาวะหมอนรองกระดูกเสื่อมและเกิดการฉีกขาด จึงทำให้ส่วนของไส้หมอนรองกระดูกเคลื่อนถอยหลังมากดทับเส้นประสาทไขสันหลัง ทำให้เส้นประสาทเกิดการอักเสบ ส่งผลให้มีอาการปวดหลัง ปวดสะโพก ร้าวลงขาหรือเท้า ซึ่งอาจมีอาการชาหรืออ่อนแรงร่วมด้วย
อาการของโรคที่พบบ่อย
🔹ปวดหลังบริเวณเอว สะโพก หรือก้นกบ
🔹ปวดร้าวลงไปถึงขา น่อง หรือเท้า โดยสามารถร้าวลงขาข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง มักมีอาการมากขึ้นเวลาไอหรือจาม
🔹มีอาการชาปลายเท้า ส่วนมากมักพบบริเวณง่ามนิ้วโป้งและนิ้วชี้ของเท้า
🔹เดินระยะทางไกลไม่ได้ มักมีอาการปวดหรือเป็นตะคริวร่วมด้วยจนต้องหยุดพัก
🔹 ถ้าอาการรุนแรง อาจมีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง กระดกข้อเท้าไม่ได้
🔹 หากอาการมากขึ้น อาจมีปัญหาเรื่องการขับถ่าย
สาเหตุและพฤติกรรมเสี่ยง
👉🏻 ได้รับแรงกระทำสั่งสมมาเป็นระยะเวลานาน เช่น การนอนหรือนั่งในท่าที่ไม่ถูกต้อง การบิดหลังบ่อยๆ
👉🏻 น้ำหนักตัวที่มากเกินไป ส่งผลให้กระดูกสันหลังล่างรับน้ำหนักเยอะตลอดเวลา
👉🏻 แบกของหนักเป็นประจำ
👉🏻 ใช้งานร่างกายผิดท่า เช่น ก้มลงเก็บของบ่อยๆ การเอี้ยวตัวแรงๆ
👉🏻 สูบบุหรี่เป็นประจำ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นหมอนรองกระดูกเสื่อม
👉🏻 ขาดการออกกำลังกาย
👉🏻 อายุที่มากขึ้นและการถ่ายทอดทางพันธุกรรม
👉🏻 อุบัติเหตุต่างๆ เช่น การกระโดด การตกจากที่สูง การโดนกระชากแรงๆ
การรักษาทางแพทย์แผนจีน
🔸 การฝังเข็มร่วมกับการใช้ไฟฟ้ากระตุ้น
🔸 การครอบแก้ว
🔸 การนวดทุยหนา
🔸 การแปะหู
🔸 การใช้ยาจีนร่วมกับการรักษา
การฝังเข็มและครอบแก้ว ช่วยได้อย่างไร ?
🔹 ลดอาการปวดและลดการอับเสบ
🔹 กระตุ้นการฟื้นฟูของกล้ามเนื้อ
🔹 ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
🔹 กระตุ้นการไหลเวียนเลือด สลายเลือดคั่งค้าง
🔹 กระตุ้นภาวะการสร้างมวลกระดูกให้สมดุล
การป้องกัน
✅ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น อย่านั่งนานจนเกินไป เลี่ยงการก้มเงยบ่อย ๆ หรือเลี่ยงการยกของหนัก
✅ ออกกำลังกายเป็นประจำ เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้อง
✅ ฝึกยืดกล้ามเนื้อหลัง เพื่อลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ
บทความโดย
พจ.1224 แพทย์จีน มินตรา ไชยศรี