
ความอ้วนตามแนวคิดแบบแพทย์แผนจีน เกิดจากอะไร ?
สาเหตุหลักในการเกิดความอ้วนตามมุมมองของแพทย์แผนจีนคือ ชี่และหยางอวัยวะภายในบกพร่อง และ การมีความชื้นสะสมในร่างกาย ดังนี้
👉🏻 ชี่ของม้ามพร่อง ส่งผลให้การลำเลียงของม้ามไม่มีกำลัง ทำให้สารอาหารไม่ถูกลำเลียงไปทั่วร่างกาย สารอาหารเลยแปรสภาพเป็นไขมัน น้ำและความชื้นตกค้างในร่างกาย จึงเกิดเป็นความอ้วน
👉🏻 หยางของไตพร่อง ทำให้ไม่มีแรงขับเคลื่อนการไหลเวียนเลือด ส่งผลให้สารน้ำไม่ถูกผลักดันให้ขึ้นสู่ร่างกายด้านบน ความชื้นเลยหยุดนิ่งตกค้าง จึงเกิดเป็นความอ้วน
👉🏻 กระเพาะอาหารและม้ามอ่อนแอ ทำให้ชี่ติดขัด เลือดคั่ง เกิดความร้อนในร่างกาย ส่งผลให้มีการสะสมของเสมหะความชื้น จึงเกิดเป็นความอ้วน
“การฝังเข็มคุมน้ำหนัก” ร่วมกับการ “ติดเมล็ดผักกาดที่หู “ เป็นวิธีลดความอ้วนอีกวิธีหนึ่ง ที่วิจัยมาแล้วว่าให้ผลในการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
โดยนำอุปกรณ์การรักษาที่เรียกว่า “เมล็ดผักกาด“ ติดตามส่วนต่าง ๆ ของใบหู
เนื่องจากในทางแพทย์แผนจีนเชื่อว่าหูมีจุดสะท้อนของอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย ทั้งภายในและภายนอก ซึ่งจุดที่แพทย์จะเลือกใช้ในการแปะคือ จุดหิว จุดกระเพาะอาหาร จุดลำไส้ใหญ่ จุดลำไส้เล็ก จุดสมอง เป็นต้น
โดยการใช้เมล็ดผักกาดกดไปที่จุดดังกล่าวเป็นการส่งสารสื่อประสาทไปยังสมอง ทำให้สมองสั่งการไปยังอวัยวะนั้น ๆ จึงช่วยควบคุมความหิว กระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก ระบบเผาผลาญ และยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายได้อีกด้วย
ซึ่งจะกดนวดคลึงก่อนและหลังกินอาหารประมาณ 10 นาที หรือจนหูเริ่มร้อนและแดง
วิธีแปะ
เช็ดแอลกอฮอล์ 75% ที่หูเพื่อให้ทำความสะอาดใบหู จากนั้นปล่อยให้แห้ง แล้วจึงนำเมล็ดผักกาดแปะลงไปตามจุดต่าง ๆ บนใบหูตามทฤษฎีของแพทย์แผนจีน ซึ่งแผ่นที่แปะหูอยู่แนะนำให้เปลี่ยนทุก 3-4 วันหรือหากมีอาการคันหรือแพ้ ให้แกะออกทันที
การปรับสมดุลชี่และหยางด้วยการฝังเข็มคุมน้ำหนัก
🔹 ช่วยให้ระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายดีขึ้น เนื่องจากไปกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้
🔹 ช่วยปรับการทำงานของระบบเมตาบอลิซึมภายในร่างกาย ซึ่งมีหน้าที่ในการเผาผลาญพลังงานจึงช่วยสลายไขมันที่สะสมอยู่ตามร่างกายได้
🔹 ช่วยปรับฮอร์โมนและระบบประสาทอัตโนมัติ เพื่อควบคุมสมดุลการลดลงของน้ำตาลและไขมัน โดยมีผลพวงในด้านดีของการควบคุมโรคต่างๆที่จะเกิดขึ้นมาภายหลัง หากมีภาวะอ้วนได้อีกด้วย เช่น โรคเบาหวาน โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคหัวใจขาดเลือด โรคความดันสูง เป็นต้น
🔹 ขับไขมันส่วนเกิน ออกมาในรูปแบบเหงื่อและของเสีย โดยสัดส่วนร่างกายจะลดลงอย่างธรรมชาติ ทำให้ผิวหนังไม่แห้งเหี่ยว ไม่หย่อนคล้อย
🔹 กระตุ้นการทำงานของต่อมหมวกไตให้ดีขึ้น ส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนคอร์ติซอล(Cortisol)ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำหรับช่วยสลายไขมันเพื่อเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในเลือดได้ดียิ่งขึ้น
🔹 ปรับสมดุลการทำงานของตับอ่อนไม่ให้หลั่ง ฮอร์โมนอินซูลิน(Insulin) มากเกินไป เนื่องจากเป็นฮอร์โมนที่ช่วยแปรสภาพน้ำตาลในเลือดให้มาสะสมเป็นไขมัน
🔹 กระตุ้นการทำงานของตับและไต เพื่อทำหน้าที่จำกัดของเสียของร่างกายได้ดียิ่งขึ้น
🔹 ปรับสมดุลการทำงานของต่อมไทรอยด์(Thyroid) ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมระบบการเผาผลาญของร่างกาย
🔹 ลดความเครียด จิตใจร่าเริงสดชื่น ไม่อ่อนเพลีย กระปรี้กระเปร่า เนื่องจาก กระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin)
นอกจากจะสามารถช่วยเรื่องคุมน้ำหนักได้แล้ว ยังสามารถช่วยรักษาอาการปวด และ อาการนอนไม่หลับได้อีกด้วย ควรรักษาต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน