การครอบแก้ว (Cupping therapy)
เป็นวิธีการรักษาโรคทางแพทย์แผนจีน โดยใช้แก้วใสทรงกลม จุดเปลวไฟเข้าไปลนภายในแก้วเพื่อทำให้เกิดภาวะสุญญากาศ หลังจากนั้นจึงนำแก้วไปครอบตามบริเวณต่างๆหรือจุดลมปราณต่างๆของร่างกาย แก้วจะดูดกล้ามเนื้อทำให้ผิวหนังมีสีแดงขึ้น
การครอบแก้ว มีส่วนช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลมปราณในร่างกาย กระตุ้นการไหลเวียนของระบบน้ำเหลือง ขจัดเลือดคั่ง ลดอาการบวม ลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ กระตุ้นประสาทเพื่อลดอาการเจ็บปวดตามกล้ามเนื้อ และยังมีฤทธิ์อุ่นร้อน ช่วยขจัดความเย็น ความชื้น และของเสียในร่างกาย ปรับสมดุลร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สามารถใช้ร่วมกับการเจาะปล่อยเลือดเพื่อรักษาอาการปวดฟกช้ำจากเลือดคั่ง
โรคที่นิยมทำการครอบแก้ว
🔹ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
🔹 ไอ ไข้หวัด หอบหืด ลมพิษ ภูมิแพ้
🔹 กระชับสัดส่วนต้นขาและหน้าท้อง
🔹 โรคระบบทางเดินอาหาร เช่น อาหารไม่ย่อย ปวดท้อง เป็นต้น
🔹 ปวดท้องประจำเดือน
🔹 โรคความดันโลหิตสูง
🔹 เส้นเลือดขอด
🔹 ไมเกรน
ข้อควรระวังและข้อห้ามสำหรับการครอบแก้ว
👉🏻 สตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการครอบแก้วบริเวณหน้าท้อง เอวและก้นกบ
👉🏻 ผู้ที่มีไข้สูงและอาการชัก ควรหลีกเลี่ยงการครอบแก้ว
👉🏻 ผู้ที่มีสภาพร่างกายที่อ่อนแอเกินไป คนชรา ไม่เหมาะกับการครอบแก้ว
👉🏻 ผู้ป่วยโรคหัวใจควรระมัดระวังในการครอบแก้ว
👉🏻 ผู้ที่ผิวหนังมีแผลเปิดและมีโรคผิวหนัง ควรหลีกเลี่ยงการครอบแก้ว
👉🏻 ผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่ควรครอบแก้วทิ้งไว้นานเกินไป เนื่องจากอาจเกิดตุ่มน้ำ และแผลหายช้า ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
คำแนะนำในการครอบแก้ว
⏱ เวลาในการครอบแก้ว ไม่ควรเกิน 10 นาที เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะการเกิดตุ่มน้ำบนผิว
⏱ รอยช้ำหลังครอบแก้ว จะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
⏱ งดการดื่มน้ำเย็น ไอศกรีม น้ำแข็ง หรือการปะทะกับลมเย็นโดยตรง ในวันที่ทำการครอบแก้ว
⏱ งดการอาบน้ำ 2-3 ชั่วโมงหลังการครอบแก้ว